Cute Dog Bopping Head

Follow

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555




 Tags:
Jelly Bean
เป็น ไปตามความคาดหมาย หลังจากที่มีข่าวว่ากูเกิลจะเปิดตัวระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นใหม่ในรหัส 4.1 โค้ดเนม Jelly Bean คีย์โน้ตในงาน Google I/O ได้เปิดตัว Jelly Bean อย่างเป็นทางการพร้อมกับเผยฟีเจอร์ทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นมาแล้ว
สิ่ง ที่กูเกิลพูดถึงเป็นอย่างแรกสุดของ Jelly Bean คือการพัฒนาแอนดรอยด์ที่ถูกล้อมานานว่าเป็นระบบปฏิบัติการอืดๆ ให้ลื่นไหลกว่าที่เคยเป็นด้วย Project Butter
Project Butter ประ กอบด้วยฟีเจอร์ที่ช่วยให้การใช้งานแอนดรอยด์นั้นลื่นไหลอย่างที่ควรจะเป็น ด้วยการขยายการล็อกเฟรมเรต vsync ไปทั้งแอนดรอยด์ ให้การใช้งานลื่นไหลอย่างต่อเนื่องกันทั้งระบบ พร้อมเพิ่มท่อบัฟเฟอสำหรับการประมวลผลกราฟิกเป็นสามเท่าตัว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกราฟิกโดยตรง สิ่งที่เห็นได้ชัดคืออินเทอร์เฟซที่ไว ลื่นไหล ตอบสนองการใช้งานดีขึ้น
เพื่อ ให้เห็นภาพชัดขึ้น กูเกิลเลยเอากล้องมาจับภาพความแตกต่างระหว่าง ICS กับ Jelly Bean ให้ดูกันเลยว่าความลื่นของอินเทอร์เฟซมันต่างชั้นกันแค่ไหน :P
ปรับปรุงฟีเจอร์ของแอนดรอยด์
  • ระบบ จัดการวิดเจ็ตใหม่ ที่สามารถย่อขยายวิดเจ็ตทับไอคอนอื่นได้ โดยระบบจะย้ายไอคอนหลบให้เอง หรือย่อขนาดวิดเจ็ตอัตโนมัติถ้าพื้นที่มีไม่พอ
  • คีย์บอร์ดของ Jelly Bean สามารถคาดเดาคำถัดไปที่เราจะพิมพ์ได้แล้ว (Predictive Keyboard) ถ้านึกภาพไม่ออก ให้นึกถึง SwiftKey
  • Offine Voice Typing พิมพ์ข้อความด้วยเสียงโดยไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ตได้แล้ว
  • เพิ่มคีย์บอร์ดมาอีกหลายภาษา และมีภาษาไทยมาด้วย! (น้ำตาจะไหล) ใช้ Voice Typing ได้ แถมยังรองรับภาษาถิ่นของไทยได้ระดับหนึ่งด้วย
  • รองรับการอินพุทข้อมูลจากภาษาเบรลล์ (ตัวอักษรสำหรับผู้พิการทางสายตา)
  • อินเทอร์เฟซกล้องใหม่ที่สามารถปัดไปทางซ้าย เพื่อเข้าไปดูภาพก่อนหน้าได้
  • เพิ่มความสามารถ Android Beam ให้สามารถแพร์อุปกรณ์ไร้สายที่ใช้บลูทูธ ด้วย NFC ได้ด้วยการแตะกับตัวเครื่อง
  • ปรับ ปรุง notification ให้แสดงผลได้มากขึ้น สามารถกดไลค์เฟซบุ๊ก กด +1 Google+ หรือยัด Pulse เข้าไปไว้ใน notification bar ได้ (หรือนี่คือมิติใหม่ของการทำแอพ ?)
ระบบค้นหาปรับปรุงใหม่ คอร์หลักของกูเกิลแต่ดั้งเดิม ทำให้ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นอีกขั้น
  • ระบบค้นหาใหม่ที่ใช้ Knowledge Graph ช่วยจัดข้อมูลให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น แสดงผลข้อมูลตามประเภทของข้อมูลที่ต่างกันไป
  • ระบบค้นหาด้วยเสียงใหม่ อารมณ์เหมือนกับ Siri, S Voice
  • Google Now ระบบที่เหนือขึ้นไปกว่าการแค่ตอบคำถามด้วยการบอกสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการด้วย ข้อมูลของผู้ใช้เอง เช่นบอกข้อมูลจราจรในยามเช้าของการทำงาน บอกสายรถเมล์ แนะนำร้านกาแฟ สายการบิน และแจ้งเตือนนัดหมาย ฯลฯ
แอ นดรอยด์ Jelly Bean ปล่อยอัพเดตให้กับ Galaxy Nexus, Nexus S และ Motorola XOOM ช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้ครับ ใครถืออยู่ก็เตรียมรับ OTA ได้เลย
ส่วนที่เหลือเป็นของนักพัฒนาครับ อย่างแรกคือ SDK ของ Jelly Bean นั้นปล่อยให้โหลดได้แล้ววันนี้ (ยังเป็นตัว preview อยู่)
อีก อย่างที่น่าสนใจคือ กูเกิลได้ปล่อย PDK (Platform Developer Kit) เครื่องมือสำหรับช่วยผู้ผลิตฮาร์ดแวร์พอร์ตแอนดรอยด์ให้ทำงานร่วมกับ ฮาร์ดแวร์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเปิดให้พาร์ทเนอร์ได้ใช้ก่อนแอนดรอยด์รุ่นใหม่จะเปิดตัวราว 2-3 เดือนครับ
กูเกิลบอกว่า PDK ของ Jelly Bean ถูกส่งให้กับพาร์ทเนอร์หลายรายแล้ว แปลว่าอัพเดตครั้งใหม่นี้น่าจะไม่ใช้เวลานานแล้วล่ะ (มั้ง)
ข่าวดีอีกเรื่องคือ C2DM (Android Cloud to Device Messaging) ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น GCM (Google Cloud Messaging for Android) และเปิดให้ใช้งานได้ฟรีแล้ว
อ่านรายละเอียดสำหรับนักพัฒนาแบบเต็มๆ ได้ที่นี่ ครับ
ปิด ท้ายกันด้วยสถิติเล็กๆ ของแอนดรอยด์ระหว่างคีย์โน้ตด้วยยอดเปิดเครื่องที่เพิ่มขึ้นไปเป็น 1 ล้านเครื่องต่อวันแล้ว เพิ่มขึ้นจากงานเมื่อปีที่แล้วที่มีเพียง 400,000 เครื่องเท่านั้น
ที่มา - The VergeAndroid DeveloperAndroid


by octopatr : Posted at 23/11/2012 20:38
หลังจากที่ทาง HTC ได้ปล่อยเทพตระกูล Tegra 3 อย่าง HTC One X ออกมาเป็นเจ้าแรกๆ และได้วางจำหน่ายในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา จวบจนถึงตอนนี้ก็ร่วมเข้าไป 7-8 เดือน ทาง HTC เองก็เลยถือโอกาสจับเอาเจ้า One X มาทำ minor change หรือเอามาปรับสเปคเพิ่มตรงนั้น ปรับตรงโน้น แก้ไขตรงนี้ เสร็จแล้วก็เปิดตัวและวางจำหน่ายในชื่อ HTC One X+ ช่วงใกล้เทศกาลลอยกระทงพอดิบพอดี (ไม่ได้เกี่ยวกันเลย) และหลังจากที่ผมได้ทดลองใช้มา 2-3 สัปดาห์ ก็ได้เวลาเอามารีวิวให้ทุกท่านได้ดูกันแล้วครับผม
== ==  VDO Review :  HTC One X+ == ==
.
.
ส่วนท่านทั้งหลายที่มีปัญหาเรื่องความเร็ว internet ให้ชม Photo review ด้านล่างไปก่อน กลับบ้านค่อยไปดู vdo ได้นะจ๊ะ
 == == Photo Review == ==
จุดสังเกตง่ายๆ ของ HTC One X+ คือมีปุ่มสัมผัสสีแดงครับผม 

เช่นกันที่ส่วนของเลนส์กล้อง และที่ด้านล่างตรงโลโก้ของ beats audio ที่จะใช้สัญลักษณ์แทนตัวอักษรแล้ว 

 เช่นเดียวกันกับรุ่นสีขาว ก็ใช้สีแดงมาตกแต่งเลนส์กล้องด้วยเหมือนกัน

 ปุ่มสัมผัสด้านหน้าทั้ง 3 ก็เป็นสีแดงครับ

 ส่วนช่องใส่ซิมก็ิยู่ที่ด้านบนเช่นเดิม ต้องใช้เข็มจิ้มออกมา (เข็มแถมมาในกล่อง)

 ส่วนที่กล้องหน้ามีการอัพเกรดจาก 1.3 ล้านในรุ่นเดิมเป็น 1.6 ล้านพร้อมค่า f2.2 เพื่อความสว่างของภาพ

หน้าจอ 4.7 นิ้ว เทคโนโลยี Super LCD 2 ความละเอียด 1280x720 pixel 

 ความจะในตัวเครื่อง จัดเต็ม 64 GB ก้อนเดียว ไม่แบ่งเป็น system หรือ storage แล้วเอาไปใช้กันให้ฟิน

 การจับภาพหน้าจอเหมือน android ทั่วๆ ไป ใช้ปุ่ม power + vol down

 หน้าตา UI ของ gallery แบบใหม่ ดูง่ายขึ้น สวยขึ้น

 ส่วนโปรแกรมดูหนัง Video Player ก็มีการอัพเดทให้สามารถปรับแสงหรือปรับเสียงได้ขณะรับชม พร้อมกันนั้นยังสามารถกดปุ่มชัตเตอร์เพื่อเก็บฉากประทับใจจากวิดีโอได้ทันที

 ส่วนกล้อง Sense Camera ก็มีลูกเล่นและฟิลเตอร์เพียบเช่นเคย

 เช่นการถ่ายภาพแบบ Continuos กดค้างไว้ ซัดไป 99 ช็อตต่อเนื่องกัน (กันพลาด)

 และในโหมดถ่ายวิดีโอ (ความละเอียดสูงสุด 1080p) ยังสามารถถ่ายภาพไปพร้อมๆ กันได้ด้วย

 และแน่นอน HTC One X+ มาพร้อม CPU สำหรับคอเกมอย่าง Nvidia Tegra 3 เพราะฉะนั้นพวกเกมที่เป็น Tegra Exclusive ก็สามรารถติดตั้งละเล่นได้ก่อนใครเพื่อน

คราวนี้มาดูตัวอย่างภาพถ่ายและวิดีโอกันดีกว่า

  == == HTC One X+ 8 Mpixel Camera Sample == ==
ตัวอย่างภาพความละเอียด 8 ล้านจากกล้องหลัก
  

== ==   HTC One X+ 1080p Full HD camcorder sample == ==
ตัวอย่าง VDO จากกล้องหลัง สว่างๆ บรรยากาศฟาร์มแกะ
 อีกอันลองพาไปปาเป้าในงานกาชาดตอนค่ำๆ
  
== == ล้วง แคะ แกะ spec == ==
1. UMTS HSDPA หรือ 3G ระดับ H
HTC One X+ เครื่องที่วางจำหน่ายจะรองรับ 3G ทุกคลื่นเช่นเดียวกับ One X ครับ
2. ขนาดหน้าจอ
4.7 นิ้ว กับความละเอียด HD 1280x720 คมชัด ด้วยจอ SLCD 2
3. หน่วยประมวลผล CPU + GPU
- ใช้ CPU Nvidia Tegra 3 T33 1.6 GHz quad-core ใช้ GPU ULP GeForce
4. RAM / Internal Memory
- RAM 1 GB / ROM 64 GB ก้อนเดียว ไม่แบ่ง ลงเกมลงแอพกันให้เต็มเครื่องได้เลยคราวนี้
5. Wireless b/g/n + Bluetooth + NFC
- ใช้ Bluetooth 4.0 พร้อมระบบ AptX ให้การฟังเพลงผ่าน Bluetooth ดีขึ้น  มี WiFi สามารเปิด WiFi hotspot ได้ มี NFC ให้ใช้งาน และบน Android 4.1 สามารถใช้ android beam รับส่งไฟล์ได้แล้ว 
6. GPS with AGPS
- จับสัญญาณได้เร็ว ไม่เกิน 1 นาทีโดยเปิดใช้งานการระบุตำแหน่งผ่าน Wireless Location ช่วยด้วย ทดลองบนที่โล่ง ฟ้าเปิด ไม่มีเมฆ 
7. ลำโพง และระบบเสียง
- เสียงลำโพงภายนอกดังกว่า One X พอสมควร ส่วนระบบเสียง beats นั้นใช้งานได้กับการเสียบหูฟัง 3.5 เท่านั้น 
8. Camera and Front-facing camera
- กล้องหลัก 8 ล้านโฟกัสเร็ว พร้อม zero shutter lag กดแล้วถ่ายเลย และยังมาพร้อม continuos mode ที่สามารถกดชัตเตอร์ค้างไว้แล้วถ่ายรัวๆ ได้สูงสุด 99 ภาพ รองรับการถ่ายภาพขณะถ่ายวิดีโอ ส่วนกล้องหน้าก็มีการอัพเดทให้เป็น 1.6 ล้านและมีค่า f2.2 เพื่อให้รับแสงได้มากขึ้น ภาพจากกล้องหน้าจึงสว่างขึ้น
9. FM Radio
- มีวิทยุ ต้องเสียบหูฟังเป็นเสาอากาศ พร้อม Soundhound หาข้อมูล ชื่อเพลง ศิลปินจากเพลงที่ฟังได้
10. Battery life
- แบตขนาด 2,100 mAH นั้นถ้าใช้งานตามปกติก็อยู่ได้ 1 วันสบายๆ เช้ายันเย็น 
*ปรับความสว่างหน้าจอลงที่ประมาณ 30% ใช้งานโทรศัพท์ประมาณ 30 นาที เล่นเวบและโซเชียล 60 นาที ถ่ายรูปไปประมาณ 10 รูป เปิด data online ตลอดทั้งวันบน 3G